“ทุกวันนี้ได้ใส่เสื้อบอลไทยไปทำงาน มันมีคุณค่าทางจิตใจและมีความสุขอยู่เสมออย่างน้อยมันก็อยู่เป็นเพื่อนทุกเวลา ไม่เคยทิ้งเรา”
นี่คือคำพูดของ มนตรี แดงดา พี่ชายของ “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ศูนย์หน้าเพชรฆาตหมายเลข 1 ของประเทศไทยจากสโมสร เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ปัจจุบันทำงานอยู่ในวงการสื่อมวลชนสายฟุตบอลไทยและคลุกคลีมานานกว่า 6 ปี
มนตรี วัย 40 ปี หรือที่แฟนบอลไทยรู้จักกันในนาม “บูรณ์ แดงดา” โด่งดังจากการเก็บสะสมพวงกุญแจสโมสรฟุตบอลไทย ซึ่งมีมากกว่า 800 ชิ้น ครบทุกทีม ครบทุกลีก
โดยเจ้าตัวจะออกไปตามล่าหาซื้อด้วยตัวเอง หากชิ้นไหนไม่มีขาย ก็จะมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนกับแฟนบอลทีมต่างๆ เพื่อเป้าหมายการได้ครอบครองพวงกุญแจในสิ่งที่ตัวเองรัก
เริ่มต้นสร้างความผูกพัน
เสื้อฟุตบอลไทย เจ้าตัวเก็บสะสมมานานกว่า 5 ปี มีมากกว่า 150 ตัว ส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อที่หายากและไม่มีขายแล้ว ซึ่ง “บูรณ์ แดงดา” ถือเป็นที่รู้จักของแฟนบอลเกือบทุกทีมในประเทศไทย
เนื่องจากหน้าที่หลักของเจ้าตัว คือ เป็นทีมงานถ่ายทอดสดฟุตบอลไทย ทุกลีก ทุกดิวิชั่น เรียกว่า ได้สัมผัสกับบรรยากาศลูกหนังแบบสุดหัวใจ โดยมีเสื้อบอลไทยเป็นยูนิฟอร์มหลัก และเดินทางไปสนามมาแล้วกว่า 70 สนามทั่วประเทศ
ด้านวงการแต่งเสื้อฟุตบอลไทย มนตรี แดงดา มีชื่อเสียงเรื่องหาอะไหล่เสื้อในการทำแบบเสื้อ โดยเฉพาะเสื้อสโมสร บีอีซี เทโรศาสน ปี 2009 เจ้าตัวทำขายให้กับแฟนบอลได้เกินกว่า 30 ตัว ซึ่งเสื้อดังกล่าว ปัจจุบันไม่มีขายอยู่ในช็อปแล้ว
แต่ด้วยใจรักของชายผู้นี้ ที่พร้อมทุ่มเทความพยายามจนประสบความสำเร็จ และเป็นที่จดจำของแฟนบอลชาวไทย
จุดเปลี่ยนเส้นทางชีวิต
“สมัยที่ มุ้ย ( ธีรศิลป์ แดงดา ) ยังเรียนอยู่ชั้นประถม พ่อของ มุ้ย ชวนผมให้เตะฟุตบอล แต่ต้องยอมรับว่า ยุคนั้นรายได้การเตะบอลมันค่อนข้างน้อย” มนตรี แดงดา เริ่มกล่าว
“ผมจึงตัดสินใจเลือกที่จะทำงาน ไม่ได้เตะบอลกับ “มุ้ย” หรอก แต่พอระยะเวลาผ่านไป ฟุตบอลไทยเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้น รายได้มากขึ้น การแข่งขันสูงขึ้น มาตรฐานของแต่ละทีมก็มากขึ้น ผมจะกลับไปเอาดีด้านลูกหนังมันก็สายไปแล้ว ไหนจะอายุก็มากขึ้น”
“ผมจึงเลือกที่จะเก็บสะสมสิ่งของที่เกี่ยวกับฟุตบอล อย่างน้อยมันก็ช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาด มันก็คือ ส่วนที่เราเคยอยากเป็นนักฟุตบอล”
“ผมเริ่มเก็บสะสมเสื้อฟุตบอลไทยกับ พวงกุญแจไปพร้อมๆกัน แต่ก็จะมาเน้นเสื้อบอลไทยเป็นหลัก ในความคิดผม การเก็บสะสมเสื้อถือเป็นความท้าทาย ยิ่งถ้าเป็นตัวเก่าๆ หายากๆ ไม่ค่อยมีใครเก็บกัน ผมจะตั้งใจหามันเป็นพิเศษ”
การค้นหาคือความท้าทาย
“เวลาหาเสื้อบางตัวไม่ได้ เราก็จะถามแฟนบอลทีมต่างๆ หรือพวกนักสะสมเสื้อว่ามีตัวนี้รึเปล่า ก็อาจจะมีการแลกเสื้อกันบ้างครับ ผมเองก็ชอบค้นหาความรู้เสื้อแต่ละตัว แต่ละปีว่าเป็นแบบไหน แตกต่างกันยังไง”
“พอรู้ข้อมูล ประวัติที่มาของเสื้อ ก็จะเริ่มตามหาจากเพจซื้อขายเสื้อฟุตบอลไทยหรือตลาดนัดที่ต่างๆ บางตัวมันใช้เวลาตามหาของนานมาก แต่พอเจอเมื่อไหร่ละก็… ความรู้สึกมันเหมือนโจรสลัดเจอสมบัติเลย ตื่นเต้นมากๆ”
“พอได้ตัวที่ 1 ผมเชื่อว่า ตัวที่ 2 , 3 , 4 , 5 มันต้องตามมา ผมก็เก็บมาเรื่อยๆจนตอนนี้ก็เข้าสู่ปีที่ 5 แล้ว ผมมีเสื้อบอลไทยประมาณ 150 ตัว มันเป็นความภาคภูมิใจที่ได้เก็บของสิ่งนี้ แต่ละคนก็มีจุดมุ่งหมายในการสะสมของที่ตัวเองชอบต่างกัน แต่สำหรับผมมันคือเสื้อบอลไทย”
“ความฝันในอนาคตผมคิดไว้แล้วครับว่า หากวันนึงเราออกจากวงการสื่อมวลชนก็จะเปิดร้านกาแฟเป็นธุรกิจเล็กๆ โดยเอาเสื้อบอลไทยที่ผมเก็บสะสม มาตกแต่งร้านให้ดูเป็นเอกลักษณ์ไปเลย”
ติดตามเรื่องราว เปิดกรุเสื้อบอลไทย ตอนต่อไป กับ มนตรี แดงดา ได้ในวันศุกร์หน้า….
ติดตาม บทความและรีวิว เสื้อฟุตบอล เสื้อไทยลีก เสื้อบอล 2017
และเทรนการแต่งตัวสไตล์ Sport Fashion ได้ที่ Shoptoro เป็นประจำ
รับโปรโมชั่นพิเศษ สำหรับการสั่งซื้อเสื้อบอลได้ที่ Line : @shoptoro
ติดตามความเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอล ผลบอล โปรแกรมการแข่งขัน ที่ Balltoro.com